วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

เที่ยวประเทศจีน Go Go

อุโมงค์เลเซอร์
 อุโมงค์เลเซอร์ (The Bund sightseeing tunnel)
รถไฟลอดอุโมงค์เลเซอร์ เป็นอุโมงค์ลอดแม่น้ำสายแรกในประเทศจีน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยรถรางได้ เพื่อข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามใช้เวลาประมาณ 5 นาที ภายในอุโมงค์ตกแต่งด้วยเเสงเลเซอร์ เป็นรูปต่าง ๆ ตื่นตาตื่นใจ
อุโมงค์เลเซอร์ มีความลึกลงไปจากพื้นแม่น้ำ 9 เมตร ความยาว 646.70 เมตร สร้างเสร็จ เมื่อปี ค.ศ. 2000 รถอุโมงค์นี้สามารถ รับ ส่งนักท่องเที่ยวได้ ชั่วโมงละ 5,280 คน
หาดไว่ทัน หรือหาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
หาดไว่ทัน หรือหาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
ตั้งอยู่ฝั่งเมืองเก่าผู่ซี่นั้น มีพื้นที่ที่เรียกกันว่า "The Bund"เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของ เซี่ยงไฮ้นับตั้งแต่อดีตกาล จนถึงปัจจุบัน ตั้งอยู่บนถนนจงซาน ริมแม่น้ำที่มีความยาว 1 กิโลเมตรครึ่ง เลาะไปตามริมแม่น้ำหวงผู่ เป็นย่านอาคารสไตล์ยุโรปงดงามที่มีความเก่าแก่กว่าร้อยปีตั้งเรียงรายอยู่บนถนนริมแม่น้ำหวงผู่ อาคารเหล่านี้เป็นอาคารที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยที่เซี่ยงไฮ้ยังเป็นเขตเช่าของประเทศต่างๆ ปัจจุบันก็ใช้เป็นโรงแรม เป็นที่ทำการธนาคารแห่งชาติหลายๆ แห่ง รวมไปถึงยังเป็นที่ทำการกงสุลไทย และธนาคารกรุงเทพ สาขาเซี่ยงไฮ้
หาดไว่ทัน เป็นสถานที่ในการถ่ายทอดเรื่องราวของเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ที่เกิดขึ้นในยุคที่เมืองเซี่ยงไฮ้เต็มไปด้วยเจ้าพ่อหลายแก๊งค์แย่ง ชิงอำนาจกันให้วุ่นวายไปหมด หาดไว่ทันจึงมีชื่อที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยว่า "หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้"
จตุรัสเทียนอันเหมิน
ตั้งอยู่ที่ถนนฉางอาน ในกลางเมืองหลวง (ปักกิ่ง) ว่ากันว่า เป็นจตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสัญลักษณ์ของจีนใหม่ และยังเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปักกิ่งด้วย ความยาวตั้งแต่ทิศเหนือจรดทิศใต้ 880 เมตร ทิศตะวันออกจรดทิศตะวันตก 500 เมตร พื้นที่ทั้งสิ้น 440,000 ตารางเมตร สามารถจุประชากรได้ถึง 1,000,000 คน ใช้จัดงานเฉลิมฉลอง เนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ ที่บริเวณจตุรัสเทียนอันเหมิน มีสถาปัตยกรรมที่สำคัญ ได้แก่ หอประตูเทียนอันเหมิน อนุสาวรีย์วีรชน หอระลึกประธานเหมาเจ๋อตง พิพิธภัณฑ์การปฏิวัติจีน พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จีน มหาศาลาประชาชน จัตุรัสเทียนอันเหมินมีความสำคัญในวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่เป็นสัญญลักขณ์เพราะว่าจัตุรัสเทียนอันเหมินคือที่ตั้งของเหตุการณ์สำคัญมากมายในประวัติศาสตร์จีนหอประตูเทียนอันเหมิน
ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของจัตุรัส ประตูเทียนอันเหมินเป็นที่มาของชื่อจัตุรัสเทียนอันเหมิน ที่ถือว่าเป็น
ดวงตา ของเมืองปักกิ่ง และเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ
สาธารณรัฐประชาชนจีน มีภาพวาดของท่านประธานเหมาเจ๋อตุงประดับอยู่ ณ ประตูแห่งนี้ หอประตูแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปีที่ 15 ในรัชสมัยหย่งเล่อ (ค.ศ.1417)
แห่งราชวงศ์หมิง (ค.ศ.1368-1644) เป็นประตูใหญ่ของเขตพระราชวังแห่งราชสำนักหมิง เบื้องหลังหอประตูนี้คือพระราชวังต้องห้าม (กู้กง) ในสมัยนั้นเรียก
ประตูเฉิงเทียนเหมิน

ลักษณะของประตูวังเก่าแห่งนี้ เป็นกำแพงใหญ่ ชั้นบนสร้างเป็นเก๋งหลังคาสีเหลือง มีเสากลมสีแดง 10 ต้น เพื่อให้เกิดเป็นช่วงระหว่างเสา 9 ช่อง ตามตัวเลขทรงโปรดของจักรพรรดิ ชั้นล่างเป็นช่องประตูทรงเกือกม้า 5 ช่อง มีภาพเหมือนสีน้ำมันขนาดใหญ่ของประธานหมาว เจ๋อ ตง ติดตั้งเหนือประตูกลางสองข้างของภาพนี้ มีคำขวัญเขียนว่า "ประชาชนจีนจงเจริญ" และ "ประชากรโลกจงเจริญ" เป็นคำพูดของ ท่านเหมาเมื่อครั้งกล่าวคำปราศรัยบนพลับพลาเทียนอานเหมิน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมค.ศ. 1949 ซึ่งเป็นวันสถาปนาประเทศจีนใหม่หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า "สาธารณรัฐประชาชนจีน" และได้ถือเอาวันที่ 1 ตุลาคม เป็นวันชาติตลอดมาจวบจนปัจจุบันบริเวณหน้าเทียนอานเหมิน มีสะพานหินที่แกะสลักลวดลายสวยงามเรียงขนานกัน 5 สะพานด้วยกัน มีสิงโตหินขนานใหญ่ ยืนเป็นยามรักษาประตูอีก 1 คู่ สำหรับสิงโตคู่ที่วางประดับหน้าตำหนักและอาคารบ้านเรือนทั่วไป จะมีตำแหน่งการจัดวางที่ตายตัว โดยตัวผู้จะถูกวางทางซ้าย ตัวเมียอยู่ทางด้านขวาเสมอ
หอไข่มุก Oriental Pearl

สัญลักษณ์ของนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ตั้งอยู่ที่สวนผู่ตง ริมแม่น้ำหวงผู่ ตรงกันข้ามกับย่านเศรษฐกิจเก่าที่เรียกว่า The Bund เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในเอเซีย และเป็นหอส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ ลักษณะที่โดดเด่นของหอนี้คือมีไข่มุกเรียงกัน 3 เม็ด จากเม็ดใหญไล่ขึ้นไปเป็นเม็ดเล็ก วางเรียงกันในความสูงที่แตกต่างกัน บนเสาที่มีฐาน 3 ต้น และนี่เองคงเป็นที่มาของของชื่อ Oriental Pearl ด้านล่างของหอไข่มุกจะเป็นพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ที่นี่จะใช้หุ่นแสดงถึงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของเมืองเซี่ยงไฮ้ ในตอนกลางคืนมีการเปิดไฟสวยงามตระการตา และในบริเวณใกล้เคียงก็มีตึกสูงๆ ที่ต่างก็ประโคมเปิดไฟเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
หอไข่มุก จะมีมุกอยู่ 3 เม็ดเรียงรายกันอยู่ ในแต่ละเม็ดเขาก็จะมีการจัดทำกิจกรรมกันหลาย ๆ อย่าง
เม็ดที่ 1 เป็นชั้นล่างสุด ก็จะมีพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่
เม็ดที่ 2 เป็นสถานีรับส่งสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ของเซี่ยงไฮ้
เม็ดที่ 3 เป็นร้านอาหารและโรงแรม
ปัจจุบันถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซี่ยงไฮ้

 
ชาวจีนย่านนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ใช่แต่เฉพาะอาหารการกินที่มีกลิ่นและรสแปลกๆเท่านั้น การแต่งกายก็ยังแตกต่างไปจากชุมชนชาวจีนอื่นๆหญิงสวม ฮิญาบ หรือผ้าคลุมหน้าตามแบบหญิงมุสลิมพวกผู้ชายสวมหมวกกลมกลางศีรษะ ชุมชนแห่งนี้เรียกตัวเองว่า "หุย" มีวิถีชีวิตสุขสงบ อยู่หลังกำแพงเมืองด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง เวลานั้นตรงกับช่วงที่ท่านนบี มูฮัมหมัด (พ.ศ.1113 -1175 ) พระบรมศาสดาผู้ก่อตั้งศาสนาอิสลามได้สิ้นชีวิตไปแล้ว 30 ปี คำสอนของท่านซึ่งเริ่มต้นเผยแพร่ในหมู่ญาติสนิท ได้แผ่ขยายกว้างขวางไปทั่วคาบสมุทร อารเบีย ขณะที่อาณาจักรมุสลิมใหม่เพิ่งก่อตั้งขึ้นในซีเรีย บรรดาพ่อค้าอาหรับและเปอร์เซีย เดินทางค้าขายทางบกมาตามเส้นทางไหม ผ่านเขาเทียนซาน ซินเจียง อุยกูร์ จนถึงฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเหลือง สู่ฉางอาน (ฉางอัน Chang An) หรือ ซีอาน ในปัจจุบัน พ่อค้าเหล่านั้นได้นำศาสนาอิสลามเข้าสู่แผ่นดินจีนมาด้วย ส่วนอีกสายหนึ่งมาทางเรือ ในสมัยราชวงศ์สุยผ่านคาบสมุทรอินเดีย ขึ้นฝั่งแถบเมืองท่ากวางตุ้งและฮกเกี้ยน จากนั้นศาสนาอิสลามก็แพร่หลายอย่างมั่นคงยาวนาน
ยุคของถังไท่จงฮ่องเต้เปิดกว้างต้อนรับทุกศาสนา โปรดฯให้ชาวหุย สร้างศาสนสถานไว้ใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนากิจ อยู่ที่ด้านหลังกำแพงเมืองฉางอานทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ราว พ.ศ.1285 เรียกกันว่า "สุเหร่าใหญ่ชิงเจิน หรือชิงเจินสือ" ต่อมาได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ตลอดมาหลายราชวงศ์ ทั้ง ซ่ง หยวน หมิง และ ชิง (แมนจู) จนถึงยุคปฏิวัติทางวัฒนธรรม รัฐบาลพรรคคอมมิวนิวสต์ พยายามลดความร้าวฉานทางลัทธิศาสนาต่างๆรวมทั้งแก้ไขนโยบายทางศาสนาของชนกลุ่มน้อย ส่งผลให้สุเหร่าผุดพรายกระจายทั่วแผ่นดินจีนกว่า 21,000 แห่ง และยังจัดสรรกองทุนพิเศษทะนุบำรุงสุเหร่าใหญ่ทุกปี ทำให้อาคารสิ่งปลูกสร้างต่างๆที่อยู่ภายในสุเหร่ายังคงความสมบูรณ์มั่นคงแข็งแรงถูกใช้สอยเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจเสมอมา และยังได้รับยกย่องให้เป็นโบราณสถานทางศาสนาอิสลามใหญ่ที่สุด 1 ใน 4 แห่งของเอเชียที่มีเอกลักษณ์เฉพาะทางสถาปัตยกรรมจีนผสมผสานความเชื่อตามหลักการของศาสนาอิสลามอันงดงามหาชมได้ยาก ภายในสุเหร่าใหญ่ ได้จัดแสดงพิพิธภัณฑ์ศิลปวัตถุล้ำค่าหายากตามหมู่อาคารต่างๆไว้อย่างน่าสนใจ พร้อมกับอนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมชม มีพี่น้องมุสลิมทั่วโลกมากกว่า 100 ประเทศ หรือกว่า 600,000 คน รวมทั้งผู้นำรัฐบาลและผู้นำประเทศอีกจำนวนมากเข้ามาเยี่ยมเยือน
 

ถนนชีวิตชาวหุย (Muslim Square Xian จัตุรัสมุสลิมซีอาน)
หาดไว่ทัน นี้ยังอยู่ใกล้ นานจิงลู่ ถนนคนเดินเป็นแหล่งช๊อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมและสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมของคนไทย และ หาดไว่ทัน นี้เรายังมองเห็นหอไข่มุกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซี่ยงไฮ้ อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น